– อนุสัญญาแรมซาร์เป็นหนึ่งในกฎหมายระหว่างประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เช่น อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) อนุสัญญามรดกโลก อนุสัญญาว่าด้วยชนิดพันธุ์อพยพ อนุสัญญา ว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ เป็นต้น ในการเป็นภาคีอนุสัญญาเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาคมโลก ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกัน

– การเป็นภาคีอนุสัญญาแรมซาร์ทำให้มีโอกาสเข้าร่วมในการแสดงความคิดเห็นกับนานาประเทศ ในการประชุมเพื่อพิจารณาแนวนโยบาย/กลไกความร่วมมือ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างชาญฉลาดและยั่งยืน

– การเป็นภาคีอนุสัญญาแรมซาร์จะนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ และโดยเฉพาะการเสนอพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญของประเทศ เข้าไปในทะเบียนรายชื่อพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Site) ทำให้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้สำหรับภาคีที่เป็นประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือในการดำเนินงานอนุรักษ์และจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำในประเทศของตน

– การเป็นภาคีอนุสัญญาแรมซาร์ จะทำให้ภาคีประเทศต่างๆ ได้รับข่าวสารข้อมูลและคำแนะนำที่ทันสมัยเกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ำ และข้อคิดเห็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างชาญฉลาด ทั้งนี้ ซึ่งอาจจะนำมาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์และการแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของพื้นที่ชุ่มน้ำของประเทศต่อไป

– เป็นช่องทางในการเข้าถึงการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ จากต่างประเทศทั้งในด้านวิชาการและกลไกทางการเงินเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของประเทศ