กลไกการบริหารอนุสัญญาฯ
– The United Nations Scientific and Cultural Organization (UNESCO) เป็นองค์กรรับรองการเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ของประเทศต่างๆ ในการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาแรมซาร์
– การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ (Conference of the Contracting Parties) จะมีการประชุมทุกๆ 3 ปี เป็นกลไกบริหารสูงสุดของอนุสัญญา ทำหน้าที่ในการพิจารณาแผนงาน/งบประมาณรวมถึงประเด็นเร่งด่วนที่เกิดขึ้น
– คณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ (Standing Committee) มีหน้าที่พิจารณา เอกสารการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาฯ และให้คำแนะนำการดำเนินการของสำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ซึ่งจะมีการประชุมปีละ 1 ครั้ง ณ สมาพันธรัฐสวิส
– คณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Scientific and Technical Review Panel) มีหน้าที่ให้คำแนะนำด้านวิชาการต่อคณะกรรมการบริหาร มีวาระคราวละ 3 ปี
– สำนักงานเลขาธิการอนุสัญญาฯ (Secretariat) ทำหน้าที่ประสานงานกับภาคี และดำเนินงานเกี่ยวกับอนุสัญญาฯ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำนักงานเลขาธิการฯ มีองค์ประกอบดังนี้ คือ เลขาธิการ (Secretary General) รองเลขาธิการ (Deputy Secretary General) ผู้ประสานงานระดับภูมิภาค 4 ท่าน คือ เอเชีย แอฟริกา ยุโรป และ Neotropic
– องค์การพันธมิตรของอนุสัญญา (International Organization Partner) ปัจจุบันมี 6 องค์กร ประกอบด้วย Birdlife International, IUCN – The Word Conservation Union, WWF International, Wetland International (WI), International Water Management Institute (IWMI) และ The Wild Faul the Hands Trust (WWT)
อ้างอิง Ramsar Secretariat an Introduction of the Ramsar Convention on Wetlands. Ramsar handbook 5th edition, 2016